บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
วอยเอจเจอร์ 1 (
อังกฤษ: Voyager 1) เป็น
ยานสำรวจอวกาศแบบไร้คนขับซึ่งองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ
สหรัฐหรือองค์การ
นาซาได้ทำการปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 1977 ภายใต้
โครงการวอยเอจเจอร์ ปัจจุบันยานสำรวจปฏิบัติงานอยู่ในอวกาศเป็นเวลานานถึง 42 ปี 3 เดือน 16 วัน ซึ่งยังคงสื่อสารกับ
โลกผ่านทาง
เครือข่ายสื่อสารข้อมูลห้วงอวกาศ (DSN) เพื่อรับคำสั่งประจำและส่งข้อมูลกลับมา ด้วยระยะห่างของยานสำรวจที่อยู่ห่างจากโลกราว 145
หน่วยดาราศาสตร์ (21.7 พันล้านกิโลเมตร, 13.5 พันล้านไมล์) เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2019
[3] จึงถือได้ว่าเป็นวัตถุที่สร้างโดยมนุษย์ที่อยู่ไกลจาก
โลกมากที่สุด
[4]ภารกิจของยานสำรวจคือการบินเฉียด
ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ และ
ดวงจันทร์ไททัน ดาวบริวารที่ใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์ เดิมทีแล้วมีการวางแนวโคจรของยานเพื่อบินเฉียด
ดาวพลูโตโดยการไม่บินเฉียดดวงจันทร์ไททัน แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนเป็นการบินเฉียดดวงจันทร์ไททันแทน เนื่องจากต้องการศึกษาชั้นบรรยากาศที่หนาแน่น ซึ่งเป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์มากในขณะนั้น
[5][6][7] วอยเอจเจอร์ 1 ได้ทำการสำรวจสภาพอากาศ สภาพสนามแม่เหล็ก และวงแหวนของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ นอกจากนี้ยังเป็นยานสำรวจลำแรกที่ได้ถ่ายภาพเผยรายละเอียดดาวบริวารของดาวเคราะห์เหล่านี้อีกด้วย ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจหลักในการบินเฉียดดาวเสาร์เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1980 ยานสำรวจ วอยเอจเจอร์ 1 ถือเป็นวัตถุสร้างโดยมนุษย์ชิ้นที่ 3 (จากทั้งหมด 5 ชิ้น) ที่โคจรด้วยความเร็วมากพอจนถึงระดับ
ความเร็วหลุดพ้นจาก
ระบบสุริยะ นอกจากนี้ในวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2012 ยานสำรวจ วอยเอจเจอร์ 1 ยังเป็นยานอวกาศลำแรกที่ได้ข้ามผ่านอวกาศชั้น
เฮลิโอพอสและเข้าสู่อวกาศชั้น
มวลสารระหว่างดาว[8]ในปี ค.ศ. 2017 ทีมงานของวอยเอจเจอร์ประสบความสำเร็จในการทดลองจุดชุดเครื่องยนต์ไอพ่นที่ใช้ในการควบคุมแนวโคจร (TCM) ซึ่งไม่มีการใช้งานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 ส่งผลให้สามารถขยายเวลาทำภารกิจของยานไปได้อีกสองถึงสามปี
[9]มีการประมาณการว่ายานสำรวจ วอยเอจเจอร์ 1 จะยังสามารถทำภารกิจต่อไปได้จนถึงปี ค.ศ. 2025 หรือจนกว่า
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้วยความร้อนจากไอโซโทปรังสีจะจ่ายไฟได้ไม่เพียงพอความต้องการของอุปกรณ์ภายในยาน หลังจากนั้นยานจะโคจรเป็นวัตถุเร่ร่อนในอวกาศ